จะไปสอบครูผู้ช่วยต้องอ่านหนังสือตรงไหน ใครรู้บ้าง

อัพเดตเมื่อ : 2 May 2024 15:58
หน่วยงาน : ครูผู้ช่วย
ถ้าอยากเรียนคณะที่เป็นครูโดยตรง แนะนำให้เลือกเรียนคณะหรือสาขาตามนี้ :
 
– คณะศึกษาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม
 
– สาขาย่อยในคณะอื่นๆ ที่มีวงเล็บว่า กศ.บ. เช่น คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาภาษาไทย (กศ.บ.)
 
– คณะหรือสาขาที่ต้องสอบ PAT5 (รหัสวิชา 75. ความถนัดทางวิชาชีพครู)
การสอบงานราชการครูผู้ช่วยภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป โดยมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 200 คะแนน ซึ่งแบ่งเป็นข้อสอบปรนัย 3 ส่วน คือ
1. ความสามารถในการวิเคราะห์ (100 คะแนน)ในส่วนนี้การคิดวิเคราะห์เชิงภาษา คือ การใช้ภาษาไทยเพื่อสื่อสารและ ความเข้าใจในการอ่านภาษาไทย การจับใจความสำคัญ การสรุปความ การตีความหมาย ข้อความ หรือสถานการณ์ต่างๆ โดยแบ่งเป็น 2 หัวข้อย่อยๆ ได้แก่
  1.) การคิดวิเคราะห์เชิงนามธรรม ได้แก่ การคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงคำ ข้อความ หรือรูปภาพ ตลอดจนการหาข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ รูปภาพ สถานการณ์ หรือแบบจำลองต่างๆ
  2.) การคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ ได้แก่ ความเข้าใจ ความคิดรวบยอด และแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์เบื้องต้น การเปรียบเทียบและวิเคราะห์เชิงปริมาณ ตลอดจนการประเมินความเพียงพอของข้อมูล
2. ทักษะภาษาอังกฤษ (50 คะแนน) ในส่วนนี้เป็นการวัดความเข้าใจหลักการสื่อสาร ในการใช้ศัพท์ สำนวน และโครงสร้างประโยคที่เหมาะสม ทั้งในเชิงความหมาย และบริบท รวมไปถึงการวัดความสามารถด้านการอ่าน โดยทดสอบการทำความเข้าใจในสาระของข้อความหรือบทความ และการวัดความสามารถด้านการเขียนภาษาอังกฤษ ในระดับเบื้องต้นอีกด้วย
3. ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี (50 คะแนน) วัดความรู้ที่เป็นพื้นฐานของการเป็นข้าราชการที่ดี ได้แก่ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง นห้าที่และความรับผิดในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตลอดจนเเจตคติและจริยธรรมสำหรับข้าราชการ
การสอบงานราชการครูผู้ช่วยภาค ข เป็นการสอบมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ โดยมีคะแนนเต็ม 200 คะแนน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. มาตรฐานความรู้ในเนื้อหาวิชาที่สอน (วิชาเอก) (100 คะแนน) เป็นการทดสอบโดยวิธีการสอบข้อเขียนแบบปรนัย ในเรื่องต่อไปนี้
   1.1) การเปลี่ยนแปลงบริบทของโลก สังคม และแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
   1.2) จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาการศึกษา และจิตวิทยาให้คำปรึกษาในการวิเคราะห์และพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ
   1.3) หลักสูตร ศาสตร์การสอน และการใ้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้
   1.4) การวัดประเมินผลการเรียนรู้และการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน
   1.5) การออกแบบและการดำเนินการเกี่วกับงานประกันคุณภาพการศึกษา
2. มาตรฐานความรู้ทั่วไปในการจัดการเรียนการสอน (75 คะแนน) เป็นการทดสอบโดยวิธีการสอบข้อเขียนแบบปรนัย
3. ความรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน (25 คะแนน) เป็นการทดสอบโดยวิธีการสอบข้อเขียนแบบปรนัย ในเรื่องต่อไปนี้
   3.1) กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติงาน ที่บังคับใช้ในปัจจุบัน
                1. รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน
                2. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ
                3. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
                4. กฎหมายว่าด้วยระเบียข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
                5. กฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
                6. กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
                7. กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองเด็ก
                8. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาปฐมวัย
   3.2) แนวทางปฏิรูปการศึกษา ที่บังคับใช้ในปัจจุบัน
                1. ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
                2. แผนการศึกษาแห่งชาติ
                3. นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ
การสอบงานราชการครูผู้ช่วยภาค ค เป็นประเมินจากการสัมภาษณ์ โดยมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน ซึ่งในส่วนนี้วัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง วิชาชีพ และการปฏิบัติงานในสถานศึกษา แล้วแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. คุณลักษณะส่วนบุคคล (25 คะแนน) เป็นประเมินจากการสัมภาษณ์ ดังนี้
           1.1) บุคลิกลักษณะ ท่วงทีวาจา
           1.2) วุฒิภาวะทางอารมณ์และการมีปฏิภาณการแก้ปัญหา
           1.3) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เจตคติ และอุดมการณ์ความเป็นครู
2. การพัฒนาตนเองและวิชาชีพ (25 คะแนน) ประเมินจากแฟ้มสะสมผลงาน ดังนี้
            2.1) ประวัติการศึกษา
            2.2) ผลงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพและวิชาเอกที่สำเร็จการศึกษา
            2.3) การเข้าถึงชุมชน และการมีจิตสาธารณะ
3. ความสามารถด้านการสอน (50 คะแนน) ประเมินจากการสอบสาธิต การปฏิบัตการสอน โดยให้มีการบันทึกภาพและเสียงในรูปแบบวิดีโอในขณะประเมินไว้เป็นหลักฐานด้วย ดังนี้
           3.1) การวิเคราะห์หลักสูตร การออแบบและการวางแผนการจัดการเรียนรู้
           3.2) ทักษะและวิธีการสอนที่เหมาะสมกับสาขาวิชาและบริบทของชั้นเรียน
           3.3) ทักษะการใช้คำถามและการตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้เรียน
           3.4) การใช้สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้
           3.5) การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้
คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบแข่งขันงานราชการครูผู้ช่วย
 1.เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
         (1) มีสัญชาติไทย
         (2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
         (3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
         (4) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
         (5) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ.
         (6) ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกพักราชการ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น หรือถูกสั่งพัก หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายองค์กรวิชาชีพนั้น ๆ
         (7) ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา
         (8) ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
         (9) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
         (10) ไม่เป็นผู้เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
         (11) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศ
         (12) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกเพราะกระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
         (13) ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการหรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
 2.ไม่เป็นพระภิกษุ สามเณร ตามคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามภิกษุ สามเณรเรียนวิชาชีพ หรือสอบแข่งขัน หรือสอบคัดเลือกอย่างคฤหัสถ์
3.เป็นผู้มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ดังนี้
         ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการศึกษาหรือทางอื่น ที่ ก.ค.ศ. กำหนด เป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งครูผู้ช่วย ตามกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก ที่เปิดรับสมัคร คุณวุฒิ วิชาเอก 
ที่นำมาประกอบการสมัครจะจัดอยู่ในกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอกใด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.6/ว 7 ลงวันที่ 18 เมษายน 2556 
หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.6/ว 4 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.6/ว 9 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2560 และหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 20 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560
เทคนิคการสอบงานราชการครูผู้ช่วยอย่างไรให้ติดในรอบเดียว
1. การเตรียมใจและหาแรงบันดาลใจในการสอบครูผู้ช่วยกรุงเทพ
– การเตรียมใจในที่นี้หมายถึงการเตรียมใจให้พร้อมที่จะสละเวลาทั้งหมดที่มีในแต่ละวันเพื่ออ่านหนังสือ 
และพร้อมที่จะตัดขาดตัวเองจากการเที่ยว การทำตัวสบายๆ การกินเหล้า หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้เราไม่ได้อ่านหนังสือ
– การหาแรงบันดาลใจ ก็สำคัญเพราะถ้าเรามีเป้าหมายในชีวิตอย่างแน่วแน่แล้ว มันก็จะเป็นแรงพลักดันที่ดีให้เราอ่านหนังสือของเรา 
บางคนคิดไม่ออก ให้คิดถึงวันที่พ่อแม่รู้ว่าเราสอบติด ท่านจะดีใจแค่ไหน ท่านจะภูมิใจแค่ไหน 
2. การเตรียมตัวและหาข้อมูล
2.1 หาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบ อย่างน้อยต้องรู้ว่าการสอบสอบกี่ ภาค สอบเนื้อหาอะไรบ้าง
-ปัจจุบันการสอบเพื่อรับเข้าเป็นข้าราชการครูมีหลายสังกัด ทั้ง สพฐ กทม หรือ ท้องถิ่น ….เราควรจะเลือกว่าสิ่งไหนที่คิดว่าเหมาะสมกับเรา 
โดยการหาข้อมูลครับ หายังไง ตามเพจต่างๆใน Facebook website ต่างๆมีมากมายเลย แนะนำแบบครบจบในทีเดียวก็ ครูวันดี.com
โดยทั่วไปเราจะสอบ 3 ภาค ซึ่งไม่แตกต่างกันมากมาย คือ
ภาค ก. วิชาความสามารถทั่วไป-วิชาความรอบรู้ -วิชาอุมดมการณ์ความเป็นครู 150 คะแนน
ภาค ข. วิชาการศึกษา และ วิชาชีพเฉพาะ/วิชาเอกที่เราเรียนมา 150 คะแนน
ภาค ค. ความเหมาะสมสำหรับตำแหน่ง ง่ายๆ คือ สัมภาษณ์ 50 คะแนน
2.2 การหาหนังสือมาอ่าน อันนี้แล้วแต่ใครชอบแบบไหน ก็ลองหาดูเอา ส่วนมากหนังสือจากสำนักติวต่างๆ ก็ใช้ได้แต่พยายามหาหลายๆสำนักเอาไว้เทียบข้อมูลเพราะ 
ข้อสอบเดียวกันแต่ละสำนักอาจเฉลยไม่เหมือนกันเวลาอ่านจะเกิดข้อสงสัยและจะทำให้เกิดความสับสน
2.3 เชื่อว่าหลายคนที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ คิดว่าหนังสือแต่ละเล่ม หนา และแยอะมากจะอ่านยังไงหมด จะเกิดอาการท้อขึ้นมาทันที 
ถ้าคุณท้อคุณจะแพ้ทันที แต่ถ้าเรายังไม่พร้อมจะอ่านหนังสือเยอะๆแบบนี้ แนะนำให้หาฟังเอาจาก Youtube ก่อนมีเยอะเลยลองเลือกฟังเอาก่อน 
จนพอจับทางได้ว่าต้องอ่านยังไง อ่านในแนวทางไหน ค่อยไปจับหนังสืออ่าน เพราะเวลาฟังคลิปเสียง เขาจะบอกเทคนิคการจำของแต่ละหัวๆ
3. การติวกับสำนักติว
เมื่ออ่านหนังสือไปสักพักพอรู้ทางพอจับทางได้ ให้หาสำนักติวติวเพื่อเก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เทคนิคการจำต่างๆ และหาความรู้เพิ่มเติม 
บางทีการอ่านหนังสืออย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ การเลือกสำนักติวแนะนำให้ถามรุ่นพี่ที่เขาสอบติดไปแล้วเพราะจะได้ไม่ผิวหวังกับการติว แต่ไม่อยากให้ติวหลายสำนักเพราะ 
เทคนิคการจำของแต่ละสำนักต่างกัน เวลาติวจะทำให้เกิดความสับสนได้
4. การอ่านหนังสืออย่างจริงจัง
การอ่านหนังสือ การแบ่งเวลาอ่านหนังสือ เป็นเทคนิคเฉพาะบุคคน บางคนอาจจะชอบตื่นมาอ่านตอนเช้าๆ บางคนอาจจะชอบอ่านทั้งวันไปจนดึก อันนี้แล้วแต่ชอบ 
แต่เวลาอ่านแล้วสมองคิดไม่ออก จำไม่ได้ให้พักไว้ก่อน หาอะไรหวานๆทานเพื่อให้สมองแล่น หรือหาอะไรดูแก้เครียด หรือหาเกมส์เล่นก็ได้ แล้วแต่ชอบแบบไหน
4.1 วิชาเอก
ทุกคนต้องถนัดวิชาเอกของตัวเองอยู่แล้วเพราะฉะนั้นให้อ่านทบทวนให้ครอบคลุมทุกเรื่อง ทุกหัวข้อ บางครั้งเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ก็เอามาออกและจะชอบผิดตรงเล็กๆ น้อยๆ นี้แหละ
4.2 ความสามารถทั่วไป (คณิตเน้นๆเยอะๆ)
ที่ให้ทบทวนรองลงมาจากวิชาเอกเพราะ คนเราจะไปตกม้าตายที่ คณิตศาสตร์ครับ สัดส่วนประมาณ 10-15 ข้อ จาก 50 ข้อ ซึ่งเยอะมากๆ 
ส่วนใหญ่ข้อสอบไม่พ้น หัวงู หัวหมา หัวแมว ขาไก่ ขาหมา ขาแมว โต๊ะจีนใครนั่งกับใคร คอนโดใครอยู่ใก้ลใครไม่ถูกกับใคร อนุกรมเน้นๆเลยครับ อลงทำสัก อนุกรม 2-3 ชั้น ข้อสอบคณิตยากพอสมควร แต่สามารถฝึกได้ทำบ่อยๆจะจำเทคนิคได้ครับ ภาษาไทยก็ทั่วๆไปกลางๆ และ ภาาอังกฤษ ก็กลางๆครับ หัดทำโจทย์คณิตฯบ่อยๆดีที่สุด
4.3 กฏหมาย พอสังเขปให้เรารู้และเข้าใจ
จริงๆแล้ว กฏหมายกับความรอบรู้จะรวมอยู่ใน 50 ข้อ ให้เราลองไปจำ กฏหมายการศึกษา ต่างๆ ไว้จะดีครับ ปีนี้เน้นอะไร อย่างปีที่ผ่านมา ออกรัฐธรรมนูนฉบับใหม่
กฏหมายการศึกษาแทบจะไม่มีเลย ประมาณ 3-5 ข้อ เพราะฉะนั้นแค่เราจำไปก็พอครับ ไม่ต้องอ่านเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายออกนิดเดียว
4.4 ความรอบรู้ ติดตามข่าวสารอย่างน้อย 3 เดือนย้อนหลัง
ตัวนี้ออกเยอะครับ เน้นติดตามข่าวสารครับ อย่างน้อยๆ ทุกวันศุกร์ควรดูลุงตู่พบประาชนครับ เน้นข่าวที่ดังๆ 3 เดือนให้หลัง เพราะ พวกนี้จะออกข้อสอบท้ายสุด ต้องทันเหตุการณ์และใหม่ที่สุด รอบที่แล้ว ออก ห้ามนั่งท้ายกระบะ ปีนี้อาจจะออก การซื้อเรือดำน้ำก็ได้ครับ 555
4.5 วิชาชีพครู
เป็นวิชาที่ง่ายที่สุดใน ภาค ก. ครับ อ่านไปให้ขึ้นใจเลย ให้เรามีความรู้เกี่ยวกับ จรรยบรรณครูเยอะๆ ข้อสอบแนว วิเคราะห์แต่ไม่ยากครับ เราสามารถเก็บคะแนนได้จาก วิชานี้แหละ ปีที่แล้วออก มาตรฐานการปฏิบัติตนเยอะมาก
4.6 วิชาการศึกษา
ที่ให้อ่านสุดท้ายเพราะ เนื้อหามันตายตัวไม่เปลี่ยนแปลงครับ ก็ไม่มีอะไรมาก จะเน้น ทฤษฎีต่างๆ ของนักวิทย์ การจัดการเรียนรู้ รูปแบบการสอน และ งานวิจัย ภาค ข ใครไม่แม่นวิชาเอก อ่านวิชาการศึกษาเยอะๆครับ ช่วยได้มากให้อ่านแบบนี้จะดีมากครับ
อ่านผ่านๆ 1 รอบ
ไฮไลท์จุดสำคัญ 1 รอบ
อ่านจริงๆจังๆ 1 รอบ
สรุปลงสมุด 1 รอบ
จะได้ทั้งหมด 4 รอบครับ ซึ่ง การสรุป หรือ ไฮไลท์ ก็เท่ากับเราอ่านไปแล้วครับ เพื่อเราจะได้เข้าใจมากขึ้นครับ
5. หัดทำข้อสอบ
พออ่านจนเข้าใจแล้วให้ทำข้อสอบเลยครับ ส่วนมากหนังสือแต่ละเล่มก็จะมีข้อสอบติดมาด้วยอยู่แล้ว ให้ทำให้ได้ 80 – 100 % ขึ้นไปครับ เพราะของจริงจะยากกว่ามาก ถ้าไม่ถึง 80 % ให้กลับไปอ่านเรื่องนั้นๆใหม่ 
การทำข้อสอบแต่ละครั้งให้จับเวลาด้วยว่าทำไวแค่ไหน และคำนวญเวลาของแต่ละภาค ว่าเหมาสมไหม จะทำทันหรือไม่
6. การทำข้อสอบ
6.1 เวลาในการทำข้อสอบสำคัญมากครับ ทำให้ไวที่สุด ฝึกอ่าน ฝึกคิดเยอะๆ เวลาเจอข้อสอบจริงจะได้ไวขึ้น
6.2 เวลาทำข้อสอบให้กาลงบนกระดาษคำถามก่อน เพื่อความไว พอเหลือเวลา 15 นาทีสุดท้ายค่อยฝนลงกระดาษคำตอบ
6.3 ให้พกลูกอมหวานๆเข้าไปในห้องสอบด้วยครับเพราะ พอทำข้อสอบเยอะๆ สมองจะเกิดอาการล้า ซึ่งลูกอมหรืออะไรหวานๆช่วยได้มาก (เคยทำมาแล้วได้ผลดีมาก)
6.4 ควรตรวจสอบรหัสประจำตัวทุกครั้ง ถ้าฝนผิดมาเรียบร้อยเลยครับ
7. การเลือกสนามสอบ
ถ้าคนไหนมั่นใจให้ลงจังหวัดที่ชอบได้เลยครับ แต่ถ้าใครไม่มั่นใจให้ดูว่าประวัติ จังหวัดไหนเรียกบรรจุเยอะเพราะบางครั้งสอบติดแต่เรียกไม่ถึงก็น่าเสียดาย ส่วนมากจะเป็นโซนภาคกลาง และภาคตะวันออกจะรับเยอะมาก
 



แหล่งข้อมูลจาก
 https://www.sheetjula.com/
สั่งซื้อหนังสือสอบราชการที่ https://www.rtamd.co.th/

>รวบรวมจากผู้สอบติดอันดับต้นๆ เจาะข้อสอบเข้างานราชการ << 

>> (Book) สรุปสาระสำคัญ อ่านกระชับเวลา ไม่สับสน เข้าใจง่าย ออกชัวร์ๆ แม่นยำ <<
>> (New) รวบรวมจากรุ่นพี่ที่สอบได้อันดับต้นๆ+เจาะลึกตรงประเด็น เก็งข้อสอบ <<
>> (Pdf) แนวข้อสอบพร้อมเฉลย+เนื้อหาสรุปเรียบร้อย ประหยัดเวลาในการอ่าน <<

 

Untitled Document

แชร์ข่าวนี้

141 ครั้ง

ข่าวอื่นๆ