แนวข้อสอบเอกการเงินการธนาคาร

อัพเดตเมื่อ : 27 Apr 2024 06:04
หน่วยงาน : กรมบังคับคดี

ข้อสอบ หลักการบัญชี
คาสั่ง ให้เลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว


1. การบัญชี หมายถึง
ก การจัดทาบัญชีรับจ่ายเงินสด
ข การจัดหาข้อมูลทางการเงินของกิจการค้า
ค การจดบันทึก รวบรวม และสรุปผลข้อมูลทางการเงิน
ง การจดบันทึก การจาแนก การสรุปผล และการรายงานเกี่ยวกับการเงิน โดยใช้หน่วยเงินตรา
รวมทั้ง การแปลความหมายของผลการปฏิบัติ
จ ถูกทุกข้อ
ตอบ ข้อ ง. การบัญชี (Accounting) หมายถึง การจดบันทึกรายการหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ การเงิน ไว้ในรูปของเงินตรา จัดแยกหมวดหมู่ของรายการที่บันทึก สรุปผล และวิเคราะห์ความหมายของ รายการที่ได้จดบันทึกไว้ โดยจัดทาในรูปของรายงานการเงิน


2. งบดุลของกิจการค่าจะแสดงถึง
ก ผลการดาเนินงานในงวดหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า
ข ฐานะการเงินของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง
ค สินทรัพย์ หนี้สิน และทุนในรอบระยะเวลาหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า
ง ส่วนของเจ้าของ ณ วันใดวันหนึ่ง
จ ถูกทุกข้อ
ตอบ ข้อ ข. งบดุล (Balance Sheet) คือ งบที่แสดงฐานะของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งว่า กิจการมี
สินทรัพย์ หนี้สิน และทุนจานวนเท่าใด


3. งบกาไรขาดทุนของกิจการค้า แสดงถึง
ก ผลการดาเนินงานในรอบระยะเวลาการดาเนินงานหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า
ข ฐานะการเงินของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง
ค ผลการดาเนินงานกาไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ณ วันสิ้นปี
ง การเปรียบเทียบระหว่างรายได้กับค่าใช้จ่ายในแต่ละปี
จ ถูกทุกข้อ
ตอบ ข้อ ก. งบกาไรขาดทุน (Income Statement) คือ งบที่แสดงผลการดาเนินงานของกิจการ ณ งวด
บัญชีหนึ่ง ๆ ว่ากิจการมีรายได้และค่าใช้จ่ายเท่าไร ถ้ารายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายผลต่างคือกาไร


4. กิจการหนึ่งมีสินทรัพย์ 100,000 บาท และมีส่วนของเจ้าของ 60,000 บาท กิจการมีหนี้สินเท่าใด
ก 160,000 บาท

ข 100,000 บาท

ค 60,000 บาท

ง 40,000 บาท

จ ผิดทุกข้อ

ตอบ ข้อ ง. จากสมการบัญชี
สินทรัพย์รวม = หนี้สินรวม + ทุน (ส่วนของเจ้าของ)
100,000 = 40,000 + 60,000


5. สมการบัญชีที่ถูกต้อง คือ
ก สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
ข สินทรัพย์ – ค่าใช้จ่าย = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ + รายได้
ค สินทรัพย์ + หนี้สิน = ส่วนของเจ้าของ
ง ถูกทั้งข้อ 1 และข้อ 3
จ ถูกทุกข้อ
ตอบ ข้อ ก. สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ


6. เมื่อเจ้าของนาสินทรัพย์มาลงทุนจะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ
ก ทาให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น
ข ทาให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น
ค ทาให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง
ง ทาให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของลดลง
จ ทาให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง
ตอบ ข้อ ก. การบันทึกรายการบัญชีเมื่อเจ้าของกิจการนาทรัพย์สินมาลงทุน
เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม
เครดิต บัญชีประเภททุน xx ทุนเพิ่ม


7. เมื่อซื้อสินทรัพย์เป็นเงินเชื่อ จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ
ก ทาให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของลดลง
ข ทาให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและหนี้สินเพิ่มขึ้น
ค ทาให้หนี้สินเพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง
ง ทาให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น
จ ทาให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและสินทรัพย์ลดลง
ตอบ ข้อ ข. การบันทึกรายการบัญชีเมื่อซื้อสินทรัพย์เป็นเงินเชื่อ
เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม
เครดิต บัญชีประเภทหนี้สิน xx หนี้สินเพิ่ม


8. เมื่อจ่ายชาระหนี้สิน จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ
ก ทาให้สินทรัพย์ลดลงและหนี้สินลดลง
ข ทาให้หนี้สินลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง
ต ทาให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง
ง ทาให้หนี้สินลดลงและทรัพย์สินเพิ่มขึ้น
จ ทาให้เจ้าหนี้ลดลงและเงินสดเพิ่มขึ้น
ตอบ ข้อ ก. การบันทึกรายการบัญชีเมื่อจ่ายชาระหนี้สิน
เดบิท บัญชีประเภทหนี้สิน xx หนี้สินลด
เครดิต บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์ลด


9. เมื่อเก็บเงินจากลูกหนี้ จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ
ก ทาให้เงินสดเพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง
ข ทาให้สินทรัพย์เพิ่มและสินทรัพย์ลดลง
ค ทาให้สินทรัพย์เพิ่มและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น
ง ทาให้สินทรัพย์เพิ่มและส่วนของเจ้าของลดลง
จ ทาให้เงินสดเพิ่มขึ้นและเจ้าหนี้ลดลง
ตอบ ข้อ ข. การบันทึกรายการบัญชีเมื่อเก็บเงินจากลูกหนี้
เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม
เครดิต บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์ลด


10. หลักการของระบบบัญชีคู่คือ
ก การจดบันทึกรายการค่าลงในสมุดรายการขั้นต้น
ข การจดบันทึกรายการค่าลงในบัญชีแยกประเภท
ค การจดบันทึกรายการค่าทุกรายการจะต้องบันทึกในบัญชีไม่น้อยกว่าสองบัญชีด้วยจานวนเงินด้านเดบิทและเครดิตเท่ากัน
ง การจดบันทึกรายการค่าต้องบันทึกทั้งสองด้านคือด้านเดบิทและด้านเครดิต
จ ถูกทั้งข้อ 1 และข้อ 2
ตอบ ข้อ ค. หลักการของระบบบัญชีคู่ (Double - Entry Accounting) หมายถึง เมื่อมีรายกาทางการค้า
เกิดขึ้นทุกรายการต้องนามาบันทึกไว้ในบัญชีสองด้าน คือ ทางด้านเดบิทและทางด้าน
เครดิต ด้วยจานวนเงินที่เท่ากันทั้งสองด้าน แต่จานวนบัญชีที่ลงนั้นไม่จาเป็นต้องเท่ากัน
กล่าวคือ อาจ บันทึกทางด้านเดบิทเพียงบัญชีเดียว แต่บันทึกทางด้านเครดิตสองหรือสามบัญชีก็ได้


แนวข้อสอบเรื่องการเงิน


1. แหล่งเงินทุนใดต่อไปนี้เป็นแหล่งเงินทุนจากภายในกิจการ

ก. พันธบัตร

ข. หุ้นบุริมสิทธิ

ค. หุ้นสามัญ

ง. กาไรสะสม

จ. ข้อ ข. ค. และ ง. ถูก

ตอบ ง. กำไรสะสม


2. Cash Flows Statement หมายถึง การศึกษากระแสการไหลเข้าออกของ

ก. เงินสดในอดีต

ข. เงินสดในปัจจุบัน

ค. เงินสดในอนาคต

ง. งบกระแสเงินสด

จ. ถูกทั้งหมด

ตอบ ก. เงินสดในอดีต


3. Business Risk เกิดจากการทาหน้าที่ใด

ก. การวางแผนทางการเงิน

ข. การตัดสินใจจัดหาเงินทุน

ค. การตัดสินใจใช้เงิน

ง. การควบคุมการเงิน

จ. ถูกทั้งหมด

ตอบ ค. กำรตัดสินใจใช้เงิน


4. ข้อใดคือสินค้าคงเหลือ

ก. Merchandise

ข. Goods

ค. Product

ง. Inventory

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ง. Inventory


5. ข้อใดคืองบประมาณการลงทุน

ก. Gapital Investment

ข. Capital Budgeting

ค. Capital Expenditure

ง. ถูกทั้งหมด

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ข. Capital Budgeting

 

ความลับการเป็นข้าราชการมาถึงมือท่านแล้ว

 

ไฟล์ราคา 389 เพิ่ม 100 บาท แถมฟรี ชุดติวสอบ ภาค ก แบบเข้าใจง่าย

หนังสือราคา 789 บวก แถมฟรี MP3บรรยาย และโปรแกรมฝึกทำข้อสอบ ภาค ก 

>รวบรวมจากผู้สอบติดอันดับต้นๆ เจาะข้อสอบเข้างานราชการ <<

>> (Book) สรุปสาระสำคัญ อ่านกระชับเวลา ไม่สับสน เข้าใจง่าย ออกชัวร์ๆ แม่นยำ <<

>> (New) รวบรวมจากรุ่นพี่ที่สอบได้อันดับต้นๆ+เจาะลึกตรงประเด็น เก็งข้อสอบ <<

>> (Pdf) แนวข้อสอบพร้อมเฉลย+เนื้อหาสรุปเรียบร้อย ประหยัดเวลาในการอ่าน <<

 


จงใช้ข้อมูลตอบคาถามข้อ 6 - 15
เงินสด
หลักทรัพย์ระยะสั้น
ลูกหนี้
สินค้า
สินทรัพย์ถาวรสุทธิ
24,000
12,000
20,000
……...
64,000
เจ้าหนี้การค้า
ตั๋วเงินจ่าย
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย
หุ้นสามัญ
กาไรสะสม
………..
10,0000
18,000
………..
36,000
บริษัท มียอดขาย (ขายเชื่อ 100%) 200,000 บาท Gross Profit Margin 20% Net Profit Margin 5, Tax Rate 20% , ดอกเบี้ยสุทธิ 4,500 บาท , Return on Asset 8% , Debt to Net Worth 0.5


6. ต้นทุนขายเท่ากับเท่าใด

ก. 40,000 บาท

ข. 160,000 บาท

ค. 200,000 บาท

ง. 10,000 บาท

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ข. 160,000 บำท


7. ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานเท่ากับเท่าใด

ก. 10,000 บาท

ข. 27,500 บาท

ค. 23,000 บาท

ง. 2,500 บาท

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ค. 23,000 บำท


8. ปีนี้บริษัทเสียภาษีเท่าใด
ก. 10,000 บาท

ข. 6,000 บาท

ค. 2,400 บาท

ง. 2,500 บาท

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ง. 2,500 บาท


9. กาไรสุทธิเท่ากับเท่าใด

ก. 10,000 บาท

ข. 12,500 บาท

ค. 17,000 บาท

ง. 12,000 บาท

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ก. 10,000 บาท

10. Interest Coverage Ratio เท่ากับเท่าใด

ก. 3.78 เท่า

ข. 2.74 เท่า

ค. 1.45 เท่า

ง. 8.00 เท่า

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ก. 3.78 เท่ำ
อัตราส่วนคุ้มครองดอกเบี้ยจ่าย = (กาไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี) / (ดอกเบี้ยจ่าย)
= 17,000 / 4,500 = 3.72


แนวข้อสอบข้อสอบความรู้เรื่องการเงิน
คำสั่ง จงพิจารณาคาตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว


1. เงินตราต่างประเทศเป็นเงินได้พึงประเมินต้องคานวณเป็นเงินตราไทย โดยอ้างอิงคานวณเป็นเงินตราไทย โดยอ้างอิงการคานวณเป็นเงินตราไทยจากที่ใด
ก. ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข. ธนาคารพาณิชย์ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์
ค. ธนาคารกลางโลก
ง´ ข้อ ก. และ ข. ถูกต้อง
ตอบ ง´ ข้อ ก. และ ข. ถูกต้อง


2. เงินตราต่างประเทศที่เป็นเงินได้พึงประเมินต้องคานวณเป็นเงินตราไทย ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อใด
ก. อัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน
ข. อัตราการแลกเปลี่ยนในวันถัดไป
ค. อัตราการเปลี่ยนในทุกวันจันทร์ต่อสัปดาห์ ของตลาดหลักทรัพย์
ง. อัตราการเปลี่ยนในทุกวันศุกร์สุดสัปดาห์ ของตลาดหลักทรัพย์
ตอบ ข. อัตราการแลกเปลี่ยนในวันถัดไป


3. กรณีที่ใช้อัตราการแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธนาคารพาณิชย์ต้องใช้เพียงธนาคารใด ธนาคารหนึ่งเพียงธนาคารเดียว หากต้องการเปลี่ยนธนาคารที่อ้างอิงอัตราการแลกเปลี่ยนต้องอนุมัติจากผู้ใด
ก. อธิการบดีสรรพากร
ข. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ค. รัฐมนตรีการกระทรวงการคลัง
ง. ปลัดกระทรวงการคลัง
ตอบ ก. อธิการบดีสรรพากร


4. รางวัลที่ได้จากการชิงโชค เป็นเงนิ พึงประเมินรูปแบบใด
ก. ทรัพย์สนิ ซึ่งอาจคิดคา นวณเป็นเงินได้
ข. ไม่มีการประเมินใดๆในรางวัล
ค. ประโยชน์ซึ่งอาจคิดคา นวณได้เป็นเงนิ
ง. ทรัพย์สินหรือรางวัลได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี
ตอบ ก. ทรัพย์สินซึ่งอาจคิดคานวณเป็นเงินได้


5. บ้านพักท่จี ัดให้อยู่ฟรี จัดเป็นเงินได้พึงประเมินรูปแบบใด
ก. ทรัพย์สนิ ซึ่งอาจคิดคา นวณเป็นเงินได้
ข. ประโยชน์ซึ่งอาจคา คา นวณได้เป็นเงิน
ค. ทรัพย์สินหรือรางวัลได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ข. ประโยชน์ซึ่งอาจคาคานวณได้เป็นเงิน


6. ได้รับค่าตอบแทนเป็น “หุ้น” จัดเป็นเงินได้พึงประเมินรูปแบบใด
ก. ทรัพย์สนิ ซึ่งอาจคิดคา นวณเป็นเงินได้
ข. ประโยชน์ซึ่งอาจคิดคา นวณได้เป็นเงนิ
ค. ค่าตอบแทน ที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ทรัพย์สินซึ่งอาจคิดคานวณเป็นเงินได้


7. การคา นวณเครดิตเงินปันผลเพื่อบรรเทาภาษีซา้ ซ้อนของเงินปันผลที่ส่วนหนึ่งได้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลไป
แล้วคา นวณได้จาก
ก. เงินปันผล x
100 - อัตราภาษีเ งินได้นิติบุคคล
อัตราภาษีเ งินได้นิติบุคคล
ข. เงินปันผล x 100
อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
ค. เงินปันผล x
อัตราภาษีเ งินได้นิติบุคคล
100 - อัตราภาษีเ งินได้นิติบุคคล
ง. เงินปันผล x
10 - อัตราภาษีเ งินได้นิติบุคคล
อัตราภาษีเ งินได้นิติบุคคล
ตอบ ก. เงินปันผล x

100 - อัตราภาษีเ งินได้นิติบุคคล
อัตราภาษีเ งินได้นิติบุคคล


8. ผู้มีเงินได้จากส่วนแบ่งกา ไรจากกองทุนรวม สามารถคา นวณเครดิตเงินปันผลได้โดยมีการคา นวณอยา่ งไร
ก. 30% ของเงินปันผลจากกองทุน
ข. เงินปันผล x
100 - อัตราภาษีเงินได้
อัตราภาษีเงินได้
ค. 5% จากมูลค่าทั้งหมดของกองทุนรวม
ง. เงินได้จากกองทุนไม่มีสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษี เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว
ตอบ ง. เงินได้จากกองทุนไม่มีสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษี เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว


9. แหล่งเงินได้ของผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 41พิจารณาอย่างไร
ก. เงินได้เกิดจากแหล่งในประเทศ คือหน้าที่การงานกิจกรรม ทรัพย์สนิ หรือ กิจการของนายจ้างที่
เกิดข้นึ สืบเน่อื งหรือเกิดในประเทศไทย
ข. เงินได้เกิดจากแหล่งนอกประเทศ คือหน้าที่การงาน กิจการงานหรือทรัพย์สนิ ในต่างประเทศ โดย
ประกอบด้วยองค์ประกอบ 2 ประการ คือผู้อยู่ในประเทศไทยในปีภาษีนั้นและนา เงินได้เข้ามาในประเทศในปี
ภาษีนั้น
ค. ถูกทั้งสองข้อ
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. ถูกทั้งสองข้อ


10. ผู้อยู่ในประเทศ ตามประมวลรัษฎากร หมายถึงผู้ที่อยู่ในประเทศเป็นระยะเวลานานเท่าใด
ก. ผู้อยู่ในประเทศไทยชั่วระยะเวลา ไม่จา กัดระยะเวลา
ข. ผู้ที่อยู่ในประเทศไทยเวลาหนึ่งหรือ หลายเวลารวมทั้งหมดถึง 3 เดือนข้นึ ไป
ค. ผู้ที่อยู่ในประเทศในเวลาหรือ หลายเวลารวมทั้งหมดถึง 180 วัน
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค. ผู้ที่อยู่ในประเทศในเวลาหรือ หลายเวลารวมทั้งหมดถึง 180 วัน

Untitled Document

แชร์ข่าวนี้

ข่าวอื่นๆ